สวัสดี สายช้อปปิ้งมือใหม่ทุกคนค่ะ บางท่านอาจจะรู้แล้วแต่สำหรับสายช้อปมือใหม่คิดว่าบทความนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะได้ทการรวบตรึง 5 ข้อที่สายช้อปต้องรู้ก่อนเข้าห้องลองเสื้อในญี่ปุ่น มาฝากเพื่อน ๆ ให้ได้เก็บไว้เป็นความรู้กันค่ะ มาค่ะวันนี้เรามาเรียนรู้ไปด้วยกันนะคะ กับมารยาทพื้นฐานของการลองเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่น ถ้าพร้อมกันแล้วลุยกันเลยค่ะ

ข้อ 1 การขออนุญาต เพื่อลองเสื้อผ้า

บางร้านก็ใช้ภาษาอังกฤษโลด แต่ถ้าพนักงานทำหน้าไม่เข้าใจ เพื่อน ๆ อาจจะต้องเว้าภาษาญี่ปุ่นสักหน่อยนะคะ โดยพูดขออนุญาตตามนี้ค่ะ

 

ห้องลองเสื้อผ้าอยู่ที่ไหนหรือครับ / คะ?
Shichakushitsu wa dochira desu ka?
試着室はどちらですか?

 

ขอลองสวม ( เสื้อผ้า ) ได้ไหมครับ / คะ?
Shichaku shitemo ii desu ka?
試着してもいいですか?

 

แต่ถ้ายังงงๆ ในสำเนียงหรือสื่อสารกันยังไม่เข้าใจ เพื่อน ๆ ก็ใช้ไม้ตายค่ะ “ภาษามือ” รับรองรอด หุหุ

ข้อ 2 พนักงานจะเข้ามาดูแลเสมอ

ส่วนใหญ่เมื่อถึงห้องลองเสื้อผ้าแล้วจะมีพนักงานมาดูแลจะถามจำนวนเสื้อผ้าที่นำเข้าไปในห้องลองว่ากี่ชิ้น บางร้านพนักงานก็มาบริการให้เราอย่างดี เช่นถอดเสื้อจากไม้แขวน แกะกระดุม แกะเสื้อที่จะลองแล้วนำไปแขวนไว้ในห้องให้เรา หรือถ้าร้านนั้นมีห้องลองเพียงห้องเดียวก็อาจจะต้องลงชื่อจองคิวไว้ก่อนนะคะ

 

ข้อ 3 ต้องถอดรองเท้าก่อนก้าวขาเข้าห้องลองเสื้อ

ส่วนใหญ่จะมีป้ายติดที่พื้นตรงม่านค่ะ พร้อมช้อนสำหรับช่วยใส่รองเท้าเตรียมไว้ให้พร้อม สำหรับบางร้านจะมีรองเท้าส้นสูงเตรียมเอาไว้ให้ลูกค้าลองด้วยที่หน้าห้องลองเสื้อผ้า ..คือดีย์

 

ปล. รวมถึงบอร์ดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อยู่ในห้องน้ำตามห้างด้วยนะคะ ก็ควรต้องถอดรองเท้าก่อนเสมอ

ข้อ 4 ต้องสวมกระดาษกันเปื้อนบริเวณใบหน้าก่อนลองเสื้อผ้า

โดยเฉพาะสาว ๆ ควรต้องสวมกระดาษกันเปื้อนบริเวณใบหน้าเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องสำอางเปื้อนเสื้อที่นำมาลอง หรือแม้แต่เสื้อของเราเองตอนถอดเข้าถอดออกก็อาจจะเลอะเทอะได้ ดูวิธีการใส่ได้จากภาพเลยค่ะ เข้าใจง่ายดี …เมื่อใช้เสร็จแล้วนำแผ่นที่ใช้แล้วคืนให้กับพนักงานที่ร้านด้วยนะคะ หรือ บางร้านก็มีถังขยะในห้องลองเสื้อก็ทิ้งให้ถูกช่องนะคะ

ข้อ 5 ต้องกล่าวขอบคุณเมื่อลองเสื้อผ้าเสร็จแล้ว

ลองเสร็จแล้ว จะซื้อชิ้นไหนก็แจ้งพนักงานได้เลยค่ะ ส่วนชิ้นไหนไม่ถูกใจก็คืนกับพนักงานได้ค่ะ อาจจะมีอาการเกรงใจหรือเขิน ๆ นิดนึง ก็กล่าวคำขอบคุณแก้เขินได้นะคะ คำนี้เชื่อว่าทุกคนพูดได้แน่นอน …กล่าวเสร็จแล้วก็อย่าลืมส่งยิ้มสยามหวาน ๆ ให้สัก 1 – 2 ทีแก้เขินได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ /ครับ
a ri ga to go za i masu
ありがとうございます。

 

หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ บ้างนะคะ …รู้ไว้ก่อนมาญี่ปุ่นค่ะ

ติดตามพวกเราได้ที่

Facebook  Youtube  Instagram

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.