คิดแบบญี่ปุ่น อาสาสมัครที่ไม่ได้สมัคร!

ถึงจะเกษียณแล้วแต่ก็ยังมีประโยชน์และยังมีคุณค่าอยู่เสมอ ที่ญี่ปุ่นเรามักจะเห็น อาสาสมัครเยอะมาก ๆ เวลาที่มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ประกาศรับสมัครอาสาสมัคร ซึ่งบางงานถึงขั้นจับฉลากคัดเลือกอาสาสมัครกันเลยทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เกษียณแล้ว ไม่ได้ทำงานแล้วแต่ก็ชอบไปเป็นอาสาสมัคร โดยไม่ปล่อยให้เวลาในแต่ละวันหายไปแบบไม่มีประโยชน์ บางทีก็ไปเป็น “อาสาสมัครที่ไม่ได้สมัคร ก็มีด้วยนะคะ

“อาสาสมัครที่ไม่ได้สมัคร” เป็นยังไง…

ระหว่างทางที่เจ้ปั่นจักรยานจะไปทำงานในตอนเช้า เจ้จะพบกับผู้สูงอายุ ที่แต่งกายในชุดวอร์มเหมือนจะมาวิ่งออกกำลังกายเสียทีเดียวก็ไม่เชิงนะคะ เพราะเจ้ดันไปเห็นที่อุปกรณ์ที่อยู่ในมือ ซึ่งด้านหนึ่งมีถุงพลาสติก และมืออีกด้านหนึ่งมีที่คีบแบบยาว ใช่ค่ะ ในระหว่างที่ท่านออกมาเดินออกกำลังกายแล้ว หากท่านพบ ขยะตามท้องถนน ท่านก็จะเก็บใส่ถุงพลาสติก แล้วนำไปทิ้งที่บ้าน …คือดีย์ ใช่ไหมคะ คนญี่ปุ่นมีแนวคิดที่ว่า “ส่วนรวมต้องมาก่อน” และก็คงเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ถนนหนทางในญี่ปุ่น สะอาดอยู่เสมอ นอกจากคนในชุมชนแล้วก็คงจะมี “อาสาสมัครที่ไม่ได้สมัคร”  นี่ล่ะค่ะ ที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเองค่ะ

ในภาพนี้ เป็นภาพที่มีอาสาสมัครในชุมชนท่านหนึ่ง กำลังคอยดูรถ ที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณถนน ให้แก่เด็ก ๆในช่วงเวลาที่โรงเรียนเลิก เด็ก ๆ จะได้เดินกลับบ้านอย่างปลอดภัย คุณลุงอาสาสมัครท่านนี้ ไม่ได้ยืนลำพังเพียงท่านเดียวนะคะ แต่ในซอยอื่น ๆ บริเวณหัวมุมถนนก็มีอาสาสมัครท่านอื่น ยืนดูรถให้ด้วยเช่นกัน พวกท่านออกมาทำหน้าที่ยืนกลางแดดด้วย ร้อนก็ร้อน งานที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่พวกท่านก็ทำ เพื่อช่วยเหลือดูแลและคอยเป็นหูเป็นตาให้กับผู้ปกครองในละแวกชุมชนนั่นเองค่ะ เคยได้ยินว่าบางชุมชนอาสาสมัครก็เป็นคนในชุมชนนั่นล่ะค่ะ ต้องมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน กันมาคอยดูแลเด็ก ๆ ในแต่ละวัน

เจ้เคยสอบถามคุณลุงชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งที่รู้จักกัน ท่านเกษียณอายุมาหลายปีแล้ว อายุ 75 ปี แต่คุณลุงยังแข็งแรงมาก ๆ คุณลุงเคยวิ่งมาราธอนสมัยหนุ่มๆ และท่านยังนำเทคนิคมาสอนเจ้วิ่งด้วยค่ะ 555 แต่ตอนนี้ท่านไม่วิ่งแล้วนะคะเดินอย่างเดียวกับท่านชอบเล่นสกีมากๆ จะไปเล่นสกีทุกฤดู นอกจากนี้ท่านยังฝึกสมองใช้ความจำกับการเรียนภาษาไทยด้วยเหตุเพราะง่าย ๆ ก็คือชอบกินอาหารไทย

เจ้เคยถามท่านว่าเกษียณอายุแล้ว  “เหงาไหม เบื่อไหมคะ?
แต่คุณลุงท่านตอบว่า  “ไม่เหงาหรอก ในแต่ละวันมีอะไรต้องทำเยอะ
เจ้ได้แต่  “ฮืม….คุณลุงไม่ได้ทำงานแล้ว ยังต้องทำอะไรอีกหรือคะ?
คุณลุงก็ตอบว่า  “นอกจากการท่องเที่ยว, เล่นกีฬาที่ชอบแล้ว ก็มีงานอาสาสมัครนี่ล่ะ ที่ทำให้ผม รู้สึกมีคุณค่าและยังมีประโยชน์อยู่

ใช่ค่ะ กิจกรรมของท่านไม่ได้มีแค่ที่กล่าวไปข้างต้นนะคะ ท่านยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่เรียกได้ว่าเป็น งานอดิเรกเลยก็คือ การเป็นอาสาสมัครพาคนตาบอดไปทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยจะมีกิจกรรมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ท่านบอกว่าเป็นกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุข เช่น ได้พาคนตาบอดไปห้องสมุด ใช่ค่ะ ที่ญี่ปุ่นมีห้องสมุดสำหรับคนตาบอดด้วย อยู่แถว ๆ สถานี Takadanobaba, พาคนตาบอดไปว่ายน้ำ, พาไปโยนโบว์ลิ่ง และรวมถึงพาคนตาบอดไปเที่ยวเมืองไทย อันนี้ว้าวสุด ๆ

ฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาก 👍 คุณลุงท่านเล่าให้ฟังว่า คนตาบอดอยากไปเที่ยวทะเล ด้วยความที่คุณลุงเองชอบเมืองไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยเสนอว่าจะพาไปเที่ยวเกาะช้าง พาไปขึ้นเรือชมทะเล พาไปดำน้ำตื้น (Snorkelling) สัมผัสผิวน้ำ ผิวทราย คุณลุงคอยอำนวยความสะดวกให้ คอยบรรยายบรรยากาศต่าง ๆ ให้คนตาบอดฟัง และคุณลุงยังแนะนำอาหารไทย ให้กับคนตาบอด ได้ลองชิมอีกด้วยค่ะ ทริปนี้เป็นทริปที่คุณลุงมีความสุขอย่างเหลือล้น

เจ้ฟังแล้ว ก็อึ้งและทึ่งกับคุณลุงชาวญี่ปุ่นท่านนี้มากจริง ๆ ค่ะ เป็นอาสาสมัครที่เต็มที่สุด ๆ ไปเลย คนญี่ปุ่นเวลาตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ตั้งใจทำให้สุดจริง ๆ ค่ะ โดยไม่สนใจว่าหน้าที่นั้นจะเล็กหรือจะใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าได้ทำแล้วต้องตั้งใจและทำให้ดีที่สุด ….มองอีกมุม นี่สินะที่คือความสุขของ “การเป็นผู้ให้ที่แท้ทรู

 

ติดตามพวกเราได้ที่

Facebook Youtube Instagram Twitter

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.