ช่วงเริ่มต้นเข้าฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่นก็มีต้นไม้ ดอกไม้แข่งกันออกดอกให้มาชมกันนะคะ ใช่ว่าจะมีแต่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่เป็นไฮไลท์ของฤดูกาลนี้ เอาล่ะค่ะ ก่อนที่จะได้ไปเจอกับ ช่วงพีคของการชมใบไม้แดงไม่ว่าจะเป็นต้นโมมิจิ หรือ ต้นแปะก้วยที่แข่งกันสาดสีสด ๆ มาช่วยสร้างบรรยากาศสดใสในฤดูนี้ เราไปชมต้นไม้ ดอกไม้ที่จะออกดอกกัน กับ “5 เทศกาลชมดอกไม้ในฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่ไกลจากโตเกียว” ในช่วงเดือนกันยายน ไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม กันก่อนดีกว่าค่ะ แต่ละที่สวยสะพรึงทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ
1.Kochia Carnival (コキアカーニバル), สวน Hitachi Seaside park จังหวัด Ibaraki
สวนนี้เป็นอีกสวนหนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คนเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะไปฤดูไหน ก็มักจะมีต้นไม้ ดอกไม้ ที่พร้อมยกขบวนมาโชว์ความงามให้ชมเสมอ โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน – 21 ตุลาคม 2018 เป็นช่วงเวลาเฉิดฉายของต้น Kochia หรือที่คนไทยเรียกกันว่า โคเคีย ซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวสดค่อย ๆ กลายเป็นสีแดงในช่วงกลางเดือนตุลาคม และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งแต่ละโทนสีก็สวยงามไม่แตกต่างกัน และระหว่างในช่วงนี้ก็ยังมีดอกไม้สายพันธุ์อื่น ๆ เช่น ดอกคอสมอส และดอก soba ที่จะเริ่มบานช่วงปลายเดือนตุลาคม ให้ได้ชมความงามกันอีกด้วย ไปสวนเดียวได้ชมดอกไม้ ต้นไม้หลายพันธุ์เลยล่ะค่ะ
ช่วงเวลาจัดงาน : 23 กันยายน – 15 ตุลาคม 2019
ราคาเข้าสวน
– ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นม.ปลายขึ้นไป) / เที่ยว 1 วัน 450 เยน (ทั่วไป) 290 เยน (กรุ๊ป)
– ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นม.ปลายขึ้นไป) / เที่ยว 2 วัน 500 เยน (ทั่วไป) 350 เยน (กรุ๊ป)
– ผู้สูงวัย (65 ปีขึ้นไป) 210 เยน / เที่ยว 1 วัน 250 เยน / เที่ยว 2 วัน
เด็กเล็ก – นักเรียนชั้นม.ต้น ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัสจากจุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 ของสถานี JR คัตสึตะ ฮิกาชิกุจิ (ประตูทิศตะวันออก) มาลงที่ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค มินามิกุจิ (ประตูทิศใต้) ราคา 400 เยนต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 17 – 23นาที
พิกัดจาก Google map:
เว็บไซต์ : hitachikaihin
2.Kinchakuda Red Spider Lily Festival, Hidaka Saitama
ดอก Kinchakuda (巾着田) บางครั้งก็เรียกว่า Manjushage หรือชื่อในภาษาอังกฤษคือ Red Spider Lily และชื่อที่คนไทยรู้จักกันดี ดอกพลับพลึงแดง
ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เป็น สัญลักษณ์ประจำฤดูใบไม้ร่วง สถานที่ชมดอกไม้ ชนิดนี้ที่มีชื่อเสียงอยู่ที่เมือง Hidaka ในจังหวัด Saitama มีดอกพลับพลึงแดงปลูกมากกว่า 5,000,000 ต้นกันเลยทีเดียวค่ะ
ช่วงเวลาจัดงาน :14 – 29 กันยายน 2019
ค่าเข้าชมสวน: 300 เยน/คน
ค่าที่จอดรถ : รถมอเตอร์ไซค์ 100 เยน/คัน, รถยนต์ 500 เยน/คัน, รถบัส 3,000 เยน/คัน
การเดินทาง : ลงรถไฟที่สถานี Koma สาย Seibu-Ikebukuro line แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
เวลาเปิด – ปิด : 9.00 น. – 16.30 น.
พิกัดจาก Google map:
เว็บไซต์ : hidakashikankou
3.Cosmos at Yamanakako Hanano Miyako Park
ดอก Cosmos เป็นเสมือนดอกซากุระของฤดูใบไม้ร่วง โดยเฉพาะที่สวน Yamanakako Hanano Miyako Park (山中湖花の都公園) เป็นสวนที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบ Yamanaka หนึ่งในทะเลสาบทั้งห้าของ ภูเขาไฟฟูจิ เป็นสวนที่มีพื้นที่กว่า 3 แสนตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยดอก Cosmos ที่แข่งกันโชว์ความสดใส กับวิวภูเขาไฟฟูจิ
ช่วงเวลาจัดงาน :21 กันยายน – 10 พฤศจิกายน 2019
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงที่สถานี Fujisan Station แล้วต่อรถบัส Fujikko bus (Lake Yamanaka’s sightseeing buses) มาลงที่ป้าย Hana-no-Miyako Koen
ดูเส้นทาง และตารางรถบัสได้จากที่นี่ค่ะ bus-en.fujikyu
เว็บไซต์ : Hanano Miyako Park
พิกัดจาก Google map:
4.Kyu Furukawa Gardens Rose Festival, Tokyo
Kyu Furukawa Garden (旧古河庭園 ) เป็นสวนกุหลาบที่อยู่ใจกลางกรุงโตเกียว จุดเด่นของสวนนี้ก็คือจะมีวิวบ้านสไตล์ยุโรปอยู่บนเนินด้านบน ที่ล้อมรอบไปด้วยสวนกุหลาบ และสวนญี่ปุ่นอยู่ด้านล่าง ซึ่งให้กลิ่นอายความเป็นยุโรป ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบมาก ๆ สวนนี้มีอายุ 100 ปี และในหนึ่งปีจะมีดอกกุหลาบออกดอกมาให้ชมกัน 2 ช่วงได้แก่ในฤดูใบไม้ผลิ และในฤดูใบไม้ร่วงค่ะ
ช่วงเวลา : 5 – 27 ตุลาคม 2019
เวลาเปิด – ปิด : 9.00 น. – 17.00 น. (Last entry 16.30 น.)
ค่าเข้าชม : 150 เยน, ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 70 เยน, เด็กอนุบาลชมฟรี
การเดินทาง :
– ลงรถไฟที่สถานี Kaminakazato สาย Keihin-Tohoku แล้วเดินต่อ 7 นาที
– ลงรถไฟที่สถานี Komagome สาย Yamanote แล้วเดินต่อ 12 นาที
– ลงรถไฟที่สถานี Nishigahara สาย Namboku แล้วเดินต่อ 12 นาที
พิกัดจาก Google map:
เว็บไซต์ : teien.tokyo-park
5.Gongendo Manjushage Festival (曼珠沙華まつり) , Satte Saitama
อีกหนึ่งสถานที่สำหรับชมดอกพลับพลึงแดงในจังหวัดไซตามะ สวนนี้มีชื่อว่า Gongendo นอกจากจะเป็นสวนที่ขึ้นชื่อในการชมซากุระและดอกเรปซีด ในฤดูใบไม้ผลิแล้ว นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็ยังมีชื่อเสียง ในการชมดอก Manjushage หรือ ดอกพลับพลึงแดงด้วยเช่นกันค่ะ
ช่วงเวลา : 14 กันยายน – 6 ตุลาคม 2019 (อาจจะเปลี่ยนไปตามการบานของดอกไม้)
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tobu-Nikko line ลงที่สถานี Satte แล้วต่อรถบัส Asahi bus ไปลงยังป้าย Gongendo (権現堂) ค่ารถบัสเที่ยวละ 180 เยน/คน
พิกัดจาก Google map:
credit photo: Satte-k.com, jw-webmagazine
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook Youtube Instagram Twitter
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.